บทสรุป ธุรกิจโฆษณาจะไปกันยังไงต่อ?


เมื่อโลกโฆษณาหมุนเร็วกว่าที่เคย AI มาแรง และพฤติกรรมคนเปลี่ยนไป
โดย คุณรติ พันธุ์ทวี, คุณภวัต เรืองเดชวรชัย, คุณภารุจ ดาวรา และ ดร.ชาคริต พิชญางกูร กับมุมมองผู้นำทั้ง 4 แห่งวงการโฆษณาและสื่อไทย ในงาน Adman Awards & Symposium 2025
:
คุณรติ (นายกสมาคมโฆษณา)
ต้องก้าวข้ามการแค่เล่าเรื่อง Storytelling สู่ Story-doing การ "ลงมือทำ" ด้วยความจริงใจและเน้นความเป็นมนุษย์ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นระยะยาวโดยเปลี่ยนบทบาทเป็นผู้แก้ปัญหาที่ "ควบคุม AI" ให้ได้
คุณภวัต (นายกสมาคมมีเดียเอเยนซี)
ทางรอดเอเจนซี่ไม่ใช่การแข่งลดราคาแต่คือการชูจุดแข็งเรื่อง "ความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์ และความเป็นมนุษย์" ที่ AI เลียนแบบไม่ได้ พร้อมปรับโมเดลธุรกิจสู่การเป็นเจ้าของคอนเทนต์ เพื่อความยั่งยืน
คุณภารุจ (นายกสมาคมโฆษณาดิจิทัลแห่งประเทศไทย)
ผู้นำต้องเปิดกว้างยอมรับว่าอุตสาหกรรมเป็นของ "คนรุ่นใหม่" โดยเปลี่ยนจากการทำงานตามใบสั่งเป็น "พาร์ทเนอร์" ที่ใช้ Data และ AI เจาะลึกถึง "เจตนา" (Intention) ของผู้บริโภค
ดร. ชาคริต (ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ CEA)
"คน" คือหัวใจสำคัญที่ต้องปรับตัวเป็น "ผู้สร้าง" เทคโนโลยีเฉพาะ (Proprietary Tech) โดยใช้ AI เป็นพื้นฐานแต่เติมเต็มด้วย "Human Touch" และสุนทรียศาสตร์ที่เครื่องจักรทำแทนไม่ได้
ไม่ว่าเทคโนโลยีจะล้ำหน้าแค่ไหน "คน" ยังคงเป็นปัจจัยหลัก ความสามารถในการปรับตัว (Adaptability) การควบคุม AI ให้เป็น และการสร้างความผูกพันทางอารมณ์ (Emotional Bonding) คือกุญแจสำคัญสู่ความอยู่รอดในยุคนี้!
อ่านบทสรุปอย่างละเอียดในคอมเมนต์ของแต่ละท่าน
---
ดำเนินรายการโดย ดร. ชาลินี ฮิราโน, Deputy Managing Director / Chief Strategy Officer Far East Fame Line DDB PLC.
วันที่ 19 พ.ย. 2568 สามย่านมิตรทาวน์
#AdManAwardsandSymposium
อนาคตของธุรกิจโฆษณาจะดำเนินอย่างไรต่อไป?
เมื่อโลกโฆษณาหมุนเร็วกว่าที่เคย AI มาแรง พฤติกรรมคนเปลี่ยน

คุณรติ นายกสมาคมโฆษณาแห่งประเทศไทย
"วันนี้ถึงวันที่ต้องเป็น 'Story-doing' Telling อย่างเดียวไม่ได้ มันต้อง Doing ให้เขาเห็น"
อนาคตและทิศทางของธุรกิจโฆษณา
- >> สัดส่วนของสื่อดังเดิมเมื่อเทียบกับสื่อดิจิทัล มีสัดส่วนที่ลดน้อยลงอย่างน่าตกใจ ปัจจัยเกิดจากการที่การเข้าถึงสื่อทีวีน้อยลงทุกวัน ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการเลือกแพลตฟอร์มที่จะเข้าถึงผู้บริโภค หรือเป็นเรื่องของคอนเทนต์ทีวีที่ต้องปรับตัว
- >> แม้เทคโนโลยีและ AI จะช่วยเรื่อง KPI และความแม่นยำ แต่ก็นำมาซึ่งการรุกล้ำความเป็นส่วนตัว แบรนด์ต้องระวังเรื่องมารยาทและกาลเทศะ เพื่อไม่ให้เกิดประสบการณ์เชิงลบต่อผู้บริโภค
- >> เทคโนโลยีอาจทำให้ช่องว่างระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภคห่างกันมากขึ้น ธุรกิจจึงต้องดึง "Humanity" กลับมา เน้นความจริงใจ (Sincerity) ไม่ฉาบฉวย เพื่อสร้างความไว้วางใจ
- >> ความท้าทายสำคัญคือ แบรนด์ควรลดการโฟกัสที่ผลลัพธ์ระยะสั้น (Short-term performance) แต่หันมาให้ความสำคัญกับการสร้าง "ความไว้เนื้อเชื่อใจในระยะยาว" (Long-term Trust) แทน
การปรับโมเดลธุรกิจโฆษณาและกลยุทธ์แบรนด์ยุคใหม่
- >> เปลี่ยนบทบาทจาก Advertising Industry เป็น Solution Industry ที่เน้นแก้ปัญหาให้ลูกค้า
- >> เลิกทำงานแบบแยกส่วน (Silo) แต่เน้นระบบนิเวศการร่วมมือ (Collaboration Ecosystem) โดยเฉพาะการรวมตัวของเอเจนซี่รายเล็กที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านมาทำงานร่วมกัน
- >> จาก Storytelling สู่ Story-doing "เล่าเรื่อง" อย่างเดียวไม่พอ แต่ต้อง "ลงมือทำ" (Story-doing) ให้เห็น เพื่อให้เห็นความจริงใจของแบรนด์
- >> แบรนด์ต้องยึดหลัก 3C: Clarity (ชัดเจน), Consistency (สม่ำเสมอ) และ Credibility (น่าเชื่อถือ) และเพิ่ม Connectivity (ความเชื่อมโยง) ที่จะเป็นบทบาทสำคัญในการลิงก์ระหว่างแบรนด์กับ Consumer ให้แน่นแฟ้นขึ้น
- >> Sustainability ต้อง "จริงใจ" และ "ตรงจุด" อย่าทำตามกระแส และเลือก SD Element ที่ตรงกับ Brand Purpose และ Consumer Value
การสร้างบุคลากร (Talent) ในอุตสาหกรรมโฆษณายุคใหม่
- >> "ไม่ฉาบฉวย" ในการใช้ข้อมูล แม้เทคโนโลยีจะช่วยให้หาข้อมูลได้เร็ว แต่สิ่งสำคัญคือความสามารถในการจัดลำดับความสำคัญ วิเคราะห์ และแยกแยะข้อมูลให้ถูกต้อง
- >> คนโฆษณาต้องมีความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลเจาะลึกไปถึง "Insight ที่แท้จริง" เพื่อนำไปสู่กลยุทธ์การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ
- >> ต้องสามารถเชื่อมโยง 3 สิ่งเข้าด้วยกันให้ได้ คือ Brand Purpose (จุดมุ่งหมายแบรนด์) Consumer Value (สิ่งที่ผู้บริโภคให้ค่า) และ Sustainability (ความยั่งยืน) โดยต้องเช็กว่าสิ่งที่แบรนด์ทำ ตรงกับสิ่งที่ผู้บริโภคให้คุณค่าหรือไม่
- >> "Human Touch" ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่สุด มนุษย์ต้องเป็นผู้ควบคุมเทคโนโลยี (AI) และสั่งการให้มันทำงานให้เราได้ ไม่ใช่ให้เทคโนโลยีมาครอบงำ
บทสรุปเพื่อความอยู่รอดของธุรกิจและคนโฆษณา
- >> ในยุคนี้คนทำงานต้องเก่งกว่าหรืออย่างน้อยต้องสามารถ "ควบคุม AI" ให้ได้ หากเก่งเท่า AI หรือคุมไม่ได้ จะถูก Disrupt อย่างแน่นอน
- >> ความสามารถในการปรับตัว (Adaptability) และความคล่องตัว (Agility) คือหัวใจสำคัญที่สุดขององค์กรและบุคลากรในยุคนี้
- >> มนุษย์ยังคงเป็นปัจจัยหลักของอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ คนรุ่นใหม่ต้องทำหน้าที่เป็น Solution Provider ที่สร้างคุณค่าและแก้ปัญหาให้ลูกค้าได้จริง
- >> ไม่ว่าเทคโนโลยีจะเปลี่ยนไปแค่ไหน แต่ท้ายสุดของความสำเร็จยังคงเป็น ความผูกพันทางอารมณ์ (Emotional Bonding) ระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภค ซึ่งเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้

คุณภวัต เรืองเดชวรชัย, นายกสมาคมมีเดียเอเยนซี และธุรกิจสื่อแห่งประเทศไทย (MAAT) และ President & CEO Media Intelligence Group (MI GROUP)
“สิ่งที่ AI ไม่มีโดยตรงคือ การผสมผสานของ ความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์ และความเป็นมนุษย์”
สถานการณ์งบโฆษณา
- >> ข้อมูลจากหน่วยงานกลางระบุว่าเม็ดเงินโฆษณาติดลบและเหลือเพียงประมาณ 80,000 กว่าล้านบาท ซึ่งสร้างความกังวลให้หลายคนในอุตสาหกรรม
- >> สมาคมมีเดียฯ มีการสำรวจและพูดคุยกันภายใน และเชื่อว่าตัวเลขไม่ได้ลดลง เนื่องจากยังมีส่วนที่ไม่สามารถเก็บได้ เช่น งบโฆษณาจาก SME หรือแบรนด์ที่ยิงโฆษณาเอง หรือใช้เอเจนซี่ขนาดเล็ก
- >> พื้นที่ใหญ่สองส่วนหลักยังคงเป็นสื่อ Broadcast TV และ สื่อออนไลน์ดิจิทัลทั้งหมด โดยมีสื่อ Out of Home (สื่อนอกบ้านทั้งหมด รวมถึง Transit) เป็นสื่อใหญ่อีกตัวหนึ่ง
- >> ถึงแม้ว่าทีวียังคงมีบทบาทอยู่บ้าง แต่ก็ลดลงอย่างชัดเจนในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป ทีวีไม่ใช่สื่อหลักของทุก Gen อีกต่อไป
- >> Digital + Influencer กลายเป็นกลุ่มก้อนที่ใหญ่ที่สุด กินสัดส่วนเกินครึ่งของตลาด โดยเฉพาะ Influencer (Nano, Micro, Macro)
การสร้าง Value ใหม่และทางรอดของ Media Agency
- >> ปัญหาใหญ่ตอนนี้คือเอเจนซี่แข่งกัน "ลด Fee" ซึ่งเป็นการทำลายตัวเอง เพราะเมื่อรายได้ลดลง ก็ต้องลดทรัพยากรและคุณภาพงานลง สุดท้ายลูกค้าก็จะได้งานที่ไม่ดี และเอเจนซี่ก็ไม่มีทุนไปพัฒนาตัวเอง
- >> ในอดีตคุณค่าของมีเดียเอเจนซี่คือการหา "Space ราคาดี ทำเลดี" แต่ปัจจุบันสิ่งเหล่านี้ถูกแทนที่ด้วยระบบ Programmatic และ AI หมดแล้ว
- >> คุณค่าของเอเจนซี่คือ ส่วนผสมของ 3 สิ่งที่ AI เลียนแบบไม่ได้เมื่อรวมกัน ความเชี่ยวชาญ (Expertise) ประสบการณ์ (Experience) และความเป็นมนุษย์ (Humanity) ซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญที่สุดที่ทำให้แตกต่างจาก AI
- >> โมเดลธุรกิจต้องเปลี่ยนจากการเป็นตัวกลาง ไปสู่การเป็น เจ้าของ IP หรือ เจ้าของ Content เอง เพราะคอนเทนต์เป็นสิ่งที่ยั่งยืน (Last long) และไม่ถูก Disrupt ง่ายๆ
ความพร้อมของ Talent และ Mindset สำหรับเอเจนซี่
- >> คนทำงานยุคนี้ต้องมีความรู้รอบตัว (รู้แบบเป็ด) แต่ในมุมของเอเจนซี่ ไม่จำเป็นต้องเก่งทุกเรื่อง สิ่งสำคัญคือต้องรักษาแกนหลักที่เป็นความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน (Specialist/Backbone) ของตัวเองไว้ให้ชัดเจน
- >> องค์กรยุคใหม่ต้อง Lean (กระชับ) ไม่จำเป็นต้องจ้างคนมาทำเองทั้งหมด เพื่อป้องกันปัญหา skill ล้าสมัย แต่ให้เน้นการ Collaborate (ร่วมมือ) กับคนเก่งภายนอก โดยวางบทบาทตัวเองเป็น Integrator หรือศูนย์รวมโซลูชันให้ลูกค้า แทนการเป็นผู้ผลิตเองทุกอย่าง
- >> โอกาส (Opportunity) มีอยู่เสมอ (เช่น ยูทูบเบอร์รุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จ) อุปสรรค (Obstacle) เป็นสิ่งต้องเจอและก้าวข้ามเพื่อให้เก่งขึ้น แต่ภัยคุกคาม (Threat) เป็นปัจจัยภายนอกที่ควบคุมไม่ได้ หากเราไปโฟกัสมากจะทำให้จิตตก (Depress) และบั่นทอนความคิดสร้างสรรค์

คุณภารุจ ดาวราย นายกสมาคมโฆษณาดิจิทัลแห่งประเทศไทย (DAAT)
“เจ้าของอุตสาหกรรมโฆษณา คือคนรุ่นถัดไปเสมอ..”
ความท้าทายจากสื่อที่กระจัดกระจาย
- >> โฆษณาจะวิ่งไปหาจุดที่ระบุตัวตนผู้บริโภคได้ ที่ทีวีดูซบเซาเพราะระบบปัจจุบันยังระบุตัวตนคนดูไม่ได้ (Broadcast) แต่ในอนาคตเมื่อคนดูผ่านกล่องที่ต้อง Log-in (เหมือนในสหรัฐฯ) ทีวีจะกลับมามีบทบาทสำคัญเพราะระบุตัวตนได้ชัดเจน
- >> วิกฤตของผู้ซื้อและผู้ขายเดิม ผู้ซื้อ (ลูกค้า) กำลังสับสน เพราะสื่อแตกตัว (Fragmented) เยอะมาก จนจัดสรรงบประมาณและจัดทีมไม่ถูก ด้านผู้ขายเดิม (เอเจนซี่รูปแบบเก่า) ที่ปรับตัวไม่ทันเมื่อลูกค้ากระจายเงินออกไปยังสื่อที่หลากหลายขึ้น จึงเป็นกลุ่มที่เสียโอกาสและรู้สึกว่าเศรษฐกิจไม่ดี
- >> โอกาสของผู้เล่นหน้าใหม่ ของกลุ่ม Influencer และผู้ทำคอนเทนต์รายใหม่ คนกลุ่มนี้รับเงินจากลูกค้าและนำไปซื้อสื่อเอง (เช่น Boost Post) ซึ่งเม็ดเงินมหาศาลนี้ยังไม่ถูกนับรวมในระบบสถิติเดิม ทำให้ภาพรวมตลาดดูเหมือนเงินหายไป
- >> มุมมองต่อ "บรรยากาศ" (The Vibe) ในอุตสาหกรรมที่ความรู้สึกว่าแย่ เกิดจากการไปฟังเสียงของ "ผู้เสียประโยชน์" (คนทำสื่อเก่า/โมเดลเก่า) หากไปคุยกับผู้เล่นหน้าใหม่ บรรยากาศจะคึกคักและเต็มไปด้วยโอกาส
- >> นี่เป็นเพียงช่วงเปลี่ยนผ่าน (Transition) ที่เกิดขึ้นทุก 10-20 ปี เป็นเรื่องปกติของโลกที่กำลัง "จัดระเบียบใหม่" (Set ตัว) ใครปรับตัวได้ก็จะอยู่รอด
จาก Brief สู่ Believe และ Intention Economy
- >> เลิกทำงานแบบรับจ้างผลิตตามสั่ง (Brief-by-brief) ที่มองงานโฆษณาเป็นแค่สินค้า แต่ให้สร้าง Partnership ที่ยึดถือความเชื่อ (Believe) เดียวกันกับลูกค้า เพื่อการเติบโตในระยะยาวร่วมกัน
- >> เปลี่ยนจาก "Attention" สู่ "Intention Economy" ใช้ Data ทำความเข้าใจ เจตนา (Intention) ของผู้บริโภคว่าเขาเข้ามาในแพลตฟอร์มเพื่ออะไร แล้วเสิร์ฟคอนเทนต์ให้ตรงจริตและกาลเทศะนั้น
- >> เลิกตื่นตระหนก (Panic) แล้วยอมรับความจริงว่าต้องอยู่กับ AI เพราะ AI ไม่ได้มีไว้เพื่อคนขี้เกียจหรือแค่ลดต้นทุน แต่มีไว้ "Serve คนขยันที่มี Vision"
- >> เอเจนซี่ไม่จำเป็นต้องสร้าง AI จากศูนย์ แต่สามารถดึง API ของเจ้าใหญ่ (เช่น ChatGPT) มา Customize สร้างระบบปิดของตัวเอง เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มที่หาที่อื่นไม่ได้
บทบาทของคนรุ่นใหม่และการปรับตัวของผู้นำในอุตสาหกรรม
- >> “โลกเป็นของคนรุ่นถัดไป ต้องยอมรับสัจธรรมว่าอุตสาหกรรมโฆษณาจะถูกขับเคลื่อนและเป็นเจ้าของโดยคนรุ่นใหม่เสมอ” ผู้นำรุ่นเก่าต้องไม่ยึดติดว่าตนเองเป็นเจ้าของตลอดไป
- >> ผู้นำต้องสร้างระบบที่ยืดหยุ่น (Unfix Mindset) และสภาพแวดล้อมการทำงานต้องไม่ยึดติดกับ Process หรือความเชื่อเดิม ๆ (Fixed Mindset) ผู้นำต้องพร้อมปรับตัวและสร้างพื้นที่ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
- >> ให้เปลี่ยนมุมมองที่มีต่อเด็กจบใหม่ ว่าเขาคือผู้ที่จะมาสอนสิ่งใหม่ ๆ ให้กับองค์กร ไม่ใช่มองว่าเป็นแค่แรงงาน (Workforce) ที่ต้องทำตามคำสั่งเพียงอย่างเดียว
- >> ดึงศักยภาพจากสิ่งที่เขา "อิน" เพราะเขาจะใช้เวลากับสิ่งที่ตัวเองชอบจนเก่ง หน้าที่ขององค์กรคือต้องหาให้เจอว่าคนรุ่นใหม่ใช้เวลาไปกับอะไร แล้วดึงความเชี่ยวชาญตรงนั้นมาใช้ประโยชน์
- >> อย่าบังคับให้เล่นเกมเก่า เปรียบเหมือนฟุตบอลสมัยใหม่ที่กลยุทธ์เปลี่ยนไปแล้ว ผู้นำที่ดี อย่าใช้วิธีการทำงานแบบเก่าไปบังคับให้คนรุ่นใหม่ทำตาม ต้องปล่อยให้เขาเล่นในรูปแบบที่เหมาะสมกับยุคสมัย

ดร. ชาคริต พิชญางกูร, ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) CEA
“หัวใจสำคัญของการพัฒนาอุตสาหกรรม คือ 'คน' ต้องปรับตัวให้ทัน Disruption ที่จะเข้ามา”
ภาพรวมเศรษฐกิจและความท้าทายของอุตสาหกรรมสร้างสรรค์
- อุตสาหกรรมโฆษณาคิดเป็น 1 ใน 3 ของมูลค่าอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ทั้งหมด และเติบโตต่อเนื่อง 4-5% ต่อปี
- World Bank ยกให้อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ (โดยเฉพาะ Content + Advertising) เป็นอุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ของไทย New S-curve เพราะสองส่วนนี้รวมกันแล้ว มีพลังขับเคลื่อนสูง
- สื่อกระจัดกระจาย (Media Fragmentation) มีผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามาแย่งชิงเวลาและความสนใจของผู้คนเยอะมาก
- การเข้ามาของ OTT Platform ในประเทศไทย (เช่น Netflix) ดึงคนดูออกจากทีวีดั้งเดิม ทำให้คอนเทนต์ทีวีลดลงอย่างเห็นได้ชัด
- Agency ทั้ง Production และ Media Agency จำเป็นต้องพัฒนา AI Tools ของตัวเองให้แข็งแกร่ง เพื่อให้บริการแบบครบวงจร (Integrated Service) และดึงดูดแบรนด์ให้ยังคงใช้บริการต่อไป
ทางออกของอุตสาหกรรมสร้างสรรค์และโฆษณาในยุค AI Disruption
- หัวใจสำคัญของการพัฒนาอุตสาหกรรมคือ "คน" ต้องปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอุตสาหกรรมที่มี AI เข้ามามีบทบาทหลัก
- งานครีเอทีฟ (Creative) ต้องนำ AI มาช่วยวิเคราะห์ Data เพื่อหา Consumer Insight ด้านงานการผลิต (Production) การใช้ AI จะช่วยลดต้นทุนการผลิตได้
- แต่บทบาทมนุษย์ยังขาดไม่ได้ ถึงแม้ AI จะให้ทางเลือกได้มาก แต่ต้องอาศัยมนุษย์ในการคัดเลือก (Curate) ตีความให้เข้ากับบริบท ใส่ความสวยงาม (Aesthetic) ความจริงใจ (Authentic) และความเห็นอกเห็นใจ (Empathy)
- งานสื่อ (Media Buying) แม้ AI จะเก่งเรื่องตัวเลข แต่แพลตฟอร์มสื่อในปัจจุบันมีความแยกส่วน (Fragmented) สูง จึงยังจำเป็นต้องใช้ทักษะของ Media Buyer ในการบูรณาการสื่อ (Integration) วางแผนผสมผสานสื่อ และการตัดสินใจในการจัดสรรงบประมาณให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
- การพัฒนาเทคโนโลยีเฉพาะ (Proprietary Tech) เอเจนซี่ควรสร้างและพัฒนาเทคโนโลยีที่เป็นลิขสิทธิ์ของตัวเอง (Proprietary Tech) แทนการใช้เครื่องมือทั่วไป (Generalize tools) เพื่อให้ AI สามารถเข้าใจบริบทเฉพาะทางได้ลึกซึ้ง เช่น ความเป็นไทย ความต้องการของคนไทย หรือพฤติกรรมผู้บริโภค ซึ่งจะเป็นจุดแข็งในการรักษาลูกค้า
ความพร้อมของ Talent, AI และการปรับตัวของคนทำงานในอุตสาหกรรมโฆษณา"
- อุตสาหกรรมโฆษณาต้องเปลี่ยนบทบาทจาก "ผู้ใช้" มาเป็น "ผู้สร้าง" IP (Intellectual Property) ของตนเอง เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและสร้างความแตกต่างให้กับองค์กร
- องค์กรต้องปรับตัวให้เป็นองค์กรที่ใช้ AI เป็นพื้นฐานในทุกกระบวนการ และที่สำคัญคือต้องพัฒนาเครื่องมือของตัวเอง (Proprietary Tech) ขึ้นมา เพื่อรองรับการใช้งานเฉพาะทาง
- อย่ามอง AI เป็นเพียงเทคโนโลยี (Artificial Intelligence) แต่ต้องพัฒนาให้เครื่องมือมี Aesthetic (สุนทรียศาสตร์) และ Empathy (ความเห็นอกเห็นใจ) โดยใส่บริบทความเป็นไทยและความเป็นมนุษย์ลงไป เพื่อให้งานมี "Human Touch" ซึ่งมีพลังในการเข้าถึงผู้คนได้มากกว่า
- อุตสาหกรรมโฆษณาถือเป็นความหวังและ Growth Engine ของเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เพราะเป็นอุตสาหกรรมที่มีเม็ดเงินหมุนเวียนสูง จึงเป็นพื้นที่ดึงดูดคนเก่งเข้ามาฝึกฝนฝีมือ ก่อนที่คนเหล่านี้จะขยายไปเติบโตในสายงานสร้างสรรค์อื่น ๆ (เช่น ภาพยนตร์) ต่อไป
วัน : 20 Nov 2025